หากคุณอยากเป็นเจ้าของกิจการร้านขายเสื้อผ้า และกำลังมองหาเคล็ดลับทำเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าให้สวยเริ่ดจนลูกค้าอดช้อปไม่ไหวล่ะก็ นี่คือบทความที่คุณต้องอ่าน! เพราะเราได้รวบรวม 10 วิธีทำเว็บไซต์ที่จะช่วยให้ยอดขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณดีเกินคาดในปี 2565 นี้!
1. ดีไซน์เว็บไซต์สวย สะอาดตา
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ลูกค้าจะต้องพิจารณาเมื่อเข้ามาที่เว็บขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณก็คือ ดีไซน์ ซึ่งคุณจะต้องให้ความสำคัญในข้อนี้มาก ๆ และดีไซน์เว็บขายเสื้อผ้าที่ดีจะต้องสวยและสะอาดตา จึงจะน่าเชื่อถือและน่าช้อปในสายตาลูกค้า
ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าสีพื้นหลังของเว็บไซต์ที่นิยมใช้กันในหมู่ของเว็บขายเสื้อผ้าออนไลน์อย่าง H&M, Pomelo หรือว่า Shein จะเป็นสีขาว ซึ่งให้ความสบายตาเวลาลูกค้าเลือกซื้อของ แล้วก็ทำให้ตัวสินค้าหรือแบนเนอร์ต่าง ๆ เด่นขึ้นมาด้วย
2. จัดหมวดหมู่สินค้าให้เรียบร้อย
การจัดหมวดหมู่สินค้าจะช่วยให้ลูกค้าหาเสื้อผ้าและสินค้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของคุณเจอง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยคุณสามารถจัดหมวดหมู่สินค้าได้หลายแบบด้วยกัน เช่น
- สินค้าขายดี
- เสื้อเชิ้ต
- เสื้อยืด
- กระโปรง
- กางเกง
- ชุดเซ็ต
- เดรส
- ชุดนอน
- ฯลฯ
และนอกจากจะจัดหมวดหมู่สินค้าแล้ว หน้าเว็บควรจะมีฟิลเตอร์หรือตัวกรองเพื่อช่วยให้ลูกค้าค้นหาไซซ์ สี และราคาตามงบได้ด้วย เท่านี้ลูกค้าก็จะได้ประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดียิ่งขึ้นแล้ว แล้วการขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น
3. มีแบนเนอร์โปรโมท
ถ้าหน้าเว็บมีแต่สินค้าก็คงจะน่าเบื่อไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ? และวิธีที่จะยกระดับหน้าร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณก็คือแบนเนอร์ต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งแบนเนอร์ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายก็คือ แบนเนอร์แคมเปญสินค้าลดราคา สินค้าแนะนำ สินค้ามาใหม่ หรือแบนเนอร์สินค้าที่เพิ่มคะแนนสะสมแต้มเป็น 2 เท่า เป็นต้น
ส่วนในเรื่องของดีไซน์ที่จะช่วยให้แบนเนอร์ดูโดดเด่นขึ้นก็สามารถออกแบบได้หลากกลาย แต่ถ้าจะให้ดีต้องโชว์เสื้อผ้าที่ร่วมแคมเปญ ส่วนลด และจุดเด่นของแคมเปญให้ชัดเจน ซึ่งตัวอย่างของข้อความที่ควรเน้นในแบนเนอร์มีหลายอย่าง เช่น ลด 25%, รับแต้ม x2, ซื้อ 1 แถม 1 และ รับ Cashback 35% เป็นต้น
4. รูปสินค้าคมชัดสวยงาม
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการขายเสื้อผ้าออนไลน์ก็คือ รูปภาพ โดยรูปที่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าจะต้องคมชัดทุกรายละเอียด และต้องเป็นรูปภาพของร้านคุณเอง แล้วแสงของภาพก็ต้องดูสวยเป็นธรรมชาติ ไม่แต่งเยอะเกินไป
ทั้งนี้นอกจากภาพจะคมชัดแล้ว จะต้องโชว์เสื้อผ้าของร้านได้อย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพและรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น
- ภาพด้านหน้า
- ภาพด้านข้าง
- มีนางแบบ/นายแบบสวมใส่
- พื้นหลังสะอาดตา
- มีการจัดวางพร็อบเพื่อให้สินค้าเด่น
- สไตล์รูปสินค้าต้องเป็นแนวกันและโทนเดียวกัน

5. ใส่รายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน
สิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้ารู้รายละเอียดสินค้าก็คือ คำอธิบายสินค้า
ซึ่งหน้าเว็บจะต้องมีข้อมูล ๆ สำคัญ ๆ อย่างครบถ้วน ลูกค้าจะได้เข้าใจตัวสินค้าและมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อเสื้อผ้าร้านคุณ โดยคำอธิบายสินค้าที่ดีจะต้องมีลักษณะดังนี้ :-
- เขียนรายละเอียดสินค้าสั้น ๆ ให้ครบถ้วนภายใน 120 คำ
- ชื่อร้าน/แบรนด์
- วัสดุ/เนื้อผ้า
- ฯลฯ
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยตอบคำถามที่ลูกค้ามีและลดเวลาในการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี
6. เว็บต้องโหลดเร็ว
ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าสนใจเสื้อผ้าร้านของคุณ แต่พอคลิกเข้ามาแล้ว หน้าเว็บโหลดไม่เสร็จสักที ลูกค้าก็คงจะหงุดหงิดไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ และนั่นก็เป็นส่วนที่ทำให้คุณพลาดโอกาสในการขายไป ดังนั้นต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าของคุณจะต้องโหลดเร็ว แต่ในข้อนี้ก็จะต้องอาศัยคนดูแลเว็บหรือคนที่เก่งด้านเขียนโปรแกรมมาดูแล
แต่ต้องบอกว่าโชคดีที่ปัจจุบันคุณไม่ต้องเสียเงินจ้างคนพัฒนาเว็บไซต์มาดูแลปัญหาความเร็วในการโหลดหน้าเว็บแล้ว เพราะมีเว็บไซต์สำเร็จรูปให้ปรับแต่งร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณได้ง่าย ๆ อย่างของ Zaapi เองก็ช่วยให้คุณขายง่าย ออกแบบไว และไร้ปัญหาเรื่องการโหลด ที่สำคัญ ฟรี!
7. มีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน
ข้อดีของการมีช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน เช่น ไลฟ์แชท, เบอร์โทร, แชทเฟสบุ๊ค ฯลฯ คือจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า และลูกค้าจะรู้สึกวางใจด้วย นั่นก็เพราะว่าช่องทางการติดต่อจะสะท้อนให้ลูกค้าเห็นว่าทางร้านหรือแบรนด์พร้อมให้ความช่วยเหลือทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีช่องทางการติดต่อแล้ว ควรระบุเวลาทำการไว้ด้วย ลูกค้าจะได้รู้ว่าควรติดต่อเวลาไหนและรู้ว่าทางร้านจะตอบกลับภายในเวลานานเท่าไหร่ เป็นการช่วยลดความกังวลของลูกค้าไปในตัวด้วย เมื่อลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะเลือกซื้อเสื้อผ้าหน้าเว็บ คุณก็จะมีโอกาสขายสินค้ามากยิ่งขึ้นแล้ว
8. มีหน้าคำถามที่พบบ่อย
หน้าคำถามที่พบบ่อยคือสิ่งพื้นฐานที่เว็บไซต์ขายเสื้อผ้าและทุกเว็บต้องมี โดยหน้านี้จะเป็นหน้าที่รวมทุกคำถามที่ลูกค้าถามกันเข้ามาบ่อย ๆ ซึ่งข้อมูลที่ควรใส่ในหน้านี้ก็ได้แก่
- ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า
- ช่องทางการชำระเงิน
- ขนาดเสื้อผ้า
- วิธีการตรวจสอบการจัดส่งสินค้าหรือการติดตามพัสดุ
- การจัดส่งสินค้าโดยทั่วไป ปกติแล้วใช้เวลากี่วัน
- กรณีการจัดส่งล่าช้า ทางร้านมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร
- สิทธิพิเศษ กรณีมีโปรแกรมสมาชิกสำหรับลูกค้า
- ช่องทางการติดต่อทางร้าน
- สาขาร้าน ถ้ามีมากกว่าหนึ่งสาขา

9. นำเสนอไอเดียการแต่งตัว
บนหน้าเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าไม่ควรมีแค่สินค้าเท่านั้น แต่ควรมีไอเดียเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการแต่งตัวของลูกค้าที่แวะเข้ามาช้อปเสื้อผ้าที่ร้านของคุณด้วย โดยเว็บขายเสื้อผ้าส่วนใหญ่จะมี Lookbook ไว้ให้ลูกค้าดูอ้างอิงในการแต่งตัวด้วย ซึ่งส่วนมาก Lookbook ก็จะเป็นทั้งการให้แรงบันดาลใจในการแต่งตัวและแนะนำคอลเล็กชั่นใหม่ ๆ ของร้าน เช่น
- คอลเล็กชั่นซัมเมอร์
- คอลเล็กชั่นตรุษจีน
- คอลเล็กชั่นวาเลนไทน์
- คอลเล็กชั่นที่ร่วมมือกับร้านขายเสื้อผ้าอื่น ๆ
- ฯลฯ
เมื่อมี Lookbook แบบนี้แล้วก็สามารถลิงก์แต่ละหน้าไปยังหน้าช้อปสินค้าได้เลย รับรองว่าขายดีขึ้นแน่นอน แล้วเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าของคุณจะปังในปี 2565 นี้!
10. รองรับการจ่ายเงินที่หลากหลาย
ถ้าอยากให้ร้านขายดี ก็ต้องอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าถึงขีดสุด
ซึ่งอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ลูกค้าช้อปได้อย่างราบลื่นก็คือการรองรับการจ่ายเงินที่หลากหลาย โดยช่องทางการจ่ายเงินที่ขาดไม่ได้เลยในปัจจุบันก็มีทั้งการโอนธนาคาร ชำระเงินปลายทาง บัตรเครดิต บัตรเดบิต และ E-wallet ต่าง ๆ
เมื่อมีช่องทางการจ่ายเงินที่หลากหลายและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าแล้ว ก็จะช่วยลดอุปสรรคในการช้อปของลูกค้า ทำให้ลูกค้าของคุณซื้อง่ายและเร็วยิ่งขึ้น ลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าเจอเสื้อผ้าที่ถูกใจบนเว็บของคุณ แต่ดันจ่ายเงินไม่ได้จะเป็นยังไง ก็คงจะได้ประสบการณ์ที่ไม่ดีไปเลยใช่ไหมล่ะ แล้วคุณก็จะเสียลูกค้าคนนั้นไปแบบถาวรเลยก็เป็นได้ ดังนั้นควรมีช่องทางการจ่ายเงินที่ครอบคลุมไว้ก่อนจะดีกว่า
สรุป
การจะทำเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าให้ขายดีในโลกออนไลน์นั้น ต้องคำนึงถึงทั้งความสวยงามและความเรียบร้อยคือ ดีไซน์ รูปภาพ และแบนเนอร์ แล้วก็ต้องคำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยว่าสามารถอำนวยความสะดวกในการช้อปปิ้งของลูกค้าได้ดีเพียงใด ซึ่งก็ครอบคลุมทั้งความเร็วในการโหลดของเว็บ ช่องทางการติดต่อ หน้าคำถามที่พบบ่อย และช่องทางการจ่ายเงินที่หลากหลาย นอกจากนี้ก็ยังต้องมีไอเดียไว้เป็นแนวทางในการแต่งตัวสำหรับลูกค้าที่ซื้อเสื้อผ้าจากร้านออนไลน์ของคุณด้วย
เมื่อรู้เทคนิคดี ๆ ในการสร้างเว็บไซต์ขายเสื้อผ้าแบบนี้แล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาออกแบบและลองนำไปประยุกต์ใช้กับร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณแล้ว! และถ้าเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่มีเว็บก็สามารถดาวน์โหลดแอพ Zaapi และดีไซน์เว็บขายเสื้อผ้าของคุณได้เลย บอกเลยงานนี้ ฟรี!