การจะให้ลูกค้าซื้อของออนไลน์แต่มีช่องทางชำระเงินที่จำกัด อาจทำให้เสียลูกค้าไปได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเปิดใช้โมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) หรือพร้อมเพย์ซึ่งเป็นช่องทางที่พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่คุ้นชิน ยังมีอีกหลายคนที่เลือกใช้ทรูมันนี่วอลเล็ต หรือสะดวกที่จะใช้บัตรเครดิตมากกว่าหากสินค้ามีราคาสูง
Zaapi เองก็อยากจะช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีรายได้มากขึ้น โดยเปิดให้ใช้งานฟีเจอร์รับชำระเงินหลายช่องทางแล้ววันนี้ แล้วถ้าเปิดใช้จะดีกว่ายังไง? เรารวบรวมเหตุผลหลัก ๆ มาให้ 3 ข้อ
เปิดร้านขายของออนไลน์ที่ Zaapi แล้วใช้ฟีเจอร์ Payment Gateway ฟรี
1. ลูกค้าของคุณจะมีตัวเลือกมากขึ้น
จากเดิมที่โอนเงินเข้าบัญชีได้อย่างเดียว ตอนนี้ลูกค้าทุกคนของร้านจะสามารถเลือกชำระเงินได้หลายช่องทางมาก ๆ ตั้งแต่ตัดเงินจากบัตรเครดิตและเดบิตการ์ด ไปจนถึงจ่ายผ่านทรูมันนี่วอลเล็ต และอีกมากมาย
2. ไม่ต้องยืนยันคำสั่งซื้อหลายขั้นตอนอีกต่อไป
ถ้าไม่ได้เปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อของ เจ้าของร้านจะต้องเข้าแอป Zaapi เพื่อยืนยันคำสั่งซื้อทีละขั้นตอน หากว่าเจ้าของร้านไม่ว่างยืนยันในตอนนั้นอาจทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไม่ซื้อเพราะต้องรอนาน ถ้าเปิดใช้ฟีเจอร์นี้ ลูกค้าจะสามารถสั่งซื้อและชำระเงินได้ทันที เจ้าของร้านมีหน้าที่แค่ส่งของก็พอ!
3. ปลอดภัย แถมมีทีมงานดูแลตลอด
ระบบปลอดภัย ข้อมูลไม่มีรั่วไหล หรือหากเกิดปัญหาในการชำระเงิน เจ้าของร้านสามารถติดต่อทีมงานของ Zaapi ได้ตลอดเวลา
วิธีเปิดใช้งานฟีเจอร์รับชำระเงินหลายช่องทาง
- ขั้นตอนแรก หลังจากเปิดแอปขึ้นมา ให้เข้าไปที่เมนู ร้านค้า (เมนูด้านขวาสุดของแอปพลิเคชั่น) จากนั้นไปที่เมนู ตั้งค่าการชำระเงิน

- เมื่อกดเข้ามาในเมนู ตั้งค่าการชำระเงิน แล้ว ให้กรอกข้อมูลบัญชีธนาคาร เลขที่บัญชี และชื่อบัญชีให้เรียบร้อย ตรวจสอบข้อมูลแล้วกดบันทึก

- เมื่อกดปุ่มบันทึกแล้ว ระบบจะพาเจ้าของร้านเข้ามาที่หน้านี้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการยืนยันตัวตน ให้เจ้าของร้านกดปุ่มยืนยันตอนนี้ได้เลยค่ะ

- เมื่อกดปุ่มยืนยันตอนนี้ ระบบจะพาเจ้าของร้านไปที่หน้าลงทะเบียน ในขั้นตอนนี้คนส่วนใหญ่จะเลือกเป็นประเภทร้านค้าส่วนบุคคลค่ะ แต่ถ้าร้านไหนมีการจดทะเบียนมาก่อนแล้ว ให้เลือกองค์กรได้เลย จากนั้นกรอกข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนกดปุ่มดำเนินการต่อนะคะ เพราะถ้าข้อมูลผิด จะต้องเข้ากระบวนการแจ้งทีมงานเพื่อทำเรื่องแก้ไข จะทำให้เสียเวลาค่ะ

- อัพโหลดเอกสารที่กำหนดไว้ (ถ้าร้านมีการจดทะเบียน ให้อัพโหลดเอกสารการจดทะเบียนในช่องที่ 3) แล้วกดปุ่มยืนยันและส่งข้อมูล รอระบบดำเนินการภายใน 1-3 วันทำการ หากนานกว่านี้แล้วสถานะของร้านยังไม่ถูกยืนยัน ให้ส่งอีเมลร้องเรียนไปที่ info@gbprimepay.com พร้อมแจ้งลิงก์ร้าน และวันที่ได้ทำเรื่องยืนยันตัวตนค่ะ

เท่านี้ก็เมื่อลูกค้าสั่งซื้อสินค้า เจ้าของร้านก็สามารถรับชำระเงินได้หลายช่องทาง ทั้งชำระเงินผ่านธนาคาร, โมบายแบงกิ้ง, จ่ายบิล, พร้อมเพย์, บัตรเครดิต, บัตรเดบิต, ทรูมันนี่วอลเล็ต, แรบบิทไลน์เพย์ และวีแชทเพย์ค่ะ การชำระเงินจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่องทางนะคะ
หลังได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว ถ้าเจ้าของร้านอยากจะปิดการใช้งานช่องไหน สามารถเข้าไปที่หน้าเมนู ตั้งค่าการรับชำระเงิน จากนั้นไปที่ ช่องทางชำระเงินของร้านค้า และนำติ๊กถูกด้านหน้าช่องทางที่ไม่ต้องการออก ระบบก็จะปิดการใช้งานให้โดยอัตโนมัติค่ะ

ยิ่งลูกค้าสะดวกขึ้น พ่อค้าแม่ค้าก็ยิ่งขายของออนไลน์ง่ายขึ้น! ดังนั้นอย่าลืมไปเปิดใช้ฟีเจอร์นี้กันนะคะ