
วิธีใช้ระบบติดแท็กสถานะ
ระบบติดแท็ก เพื่อบอกสถานะลูกค้าแต่ละคน รวมถึงสถานะออเดอร์สินค้า เพื่อการจัดการทุกคำสั่งซื้อที่ง่ายขึ้น
ข้อดีของระบบติดสถานะ (Status) และป้ายกำกับ (Tag)
การติดสถานะ หรือที่ได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า ติดแท็ก นั้น ช่วยให้เจ้าของร้านจัดการข้อมูลลูกค้าและข้อมูลออเดอร์ได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องจดแยกไว้ที่อื่นว่าใครเป็นใคร เช่น ลูกค้าคนนี้ซื้อบ่อย ก็ติดแท็ก VIP ไว้ได้ หรือลูกค้าคนนั้นโอนเงินแล้ว ก็ติดแท็กบอกสถานะไว้ได้เลยว่า ต้องส่งของ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นระบบช่วยจัดการการขาย และระบบ CRM ย่อม ๆ ที่เก็บข้อมูลลูกค้าได้ละเอียดเกือบเท่าโปรแกรมที่ต้องเสียเงินซื้อ
ติดแท็กให้กับลูกค้า บน Desktop Version

เข้าแชทลูกค้า แล้วกดปุ่ม + เพิ่มป้ายกำกับ เมื่อติดป้ายกำกับให้ลูกค้าแล้ว จะทำให้จัดการแชทได้ง่ายขึ้น
ติดแท็กให้กับลูกค้า บนแอพพลิเคชั่น


จัดการแชทได้ง่าย แค่ปัดซ้าย 1 ที
เพียงปัดซ้ายตรงแชทที่ต้องการ จะเจอตัวเลือก "ต้องติดตาม" "จัดการแล้ว" และ "อื่น ๆ" โดยหากกดไปที่ตัวเลือกอื่น ๆ จะมีแท็กเพิ่มเติมอีก 2 แท็ก คือ "ทำเครื่องหมายความว่าอ่านแล้ว" และ "ปิดการแจ้งเตือนแชทนั้น"
มีฟิลเตอร์ จะได้หาแท็กง่ายมากยิ่งขึ้น
มีแท็กและสถานะแบ่งแยกเป็นหมวดหมู่เพื่อความง่ายต่อการจัดการ
- สถานะของแชท ได้แก่ อ่านแล้ว และยังไม่ได้อ่าน
- สถานะของออเดอร์ ได้แก่ ยังไม่ได้จัดการ, ต้องติดตาม, และจัดการแล้ว
- แท็กแยกประเภทลูกค้า เช่น ลูกค้าระดับ VIP, ลูกค้าประจำ, ลูกค้าใหม่และรายละเอียดอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น แชทที่สำคัญ, หรือแม้กระทั่งแบล็กลิสต์




เลือกแท็กได้ในขณะที่แชท กันหลงลืม
กดเข้าไปที่บทสนทนา แล้วกดลูกศรที่มุมขวาบน จะเห็นเมนูใหม่ ๆ เลื่อนมาบนจอ ให้กดเลือกเมนู "แท็ก (Label)" จากนั้นก็สามารถเลือกแท็กที่ต้องการได้
หน้าตาแชทที่เป็นระเบียบ พร้อมใช้งาน
จะเห็นว่า หากแชทไหนมีแท็ก เมื่อกดเข้าไปที่บทสนทนา จะพบกับแท็กอยู่ด้านบน เพื่อเตือนให้เจ้าของร้านทราบในขณะที่แชทว่าลูกค้าคนนี้เป็นใคร สถานะออเดอร์เป็นอย่างไร
เมื่อออกจากบทสนทนา ก็จะยังเห็นแท็กบ่งบอกสถานะอย่างชัดเจน


ใช้ระบบรวมแชทของ Zaapi มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ครบที่สุด และมีทีมงานคนไทยคอยให้คำปรึกษา
