กลับสู่หน้าบล็อกหลัก
Published
May 15, 2025
10
mins read

7 เครื่องมือ AI ช่วยดันยอดขายร้าน E-commerce ให้โตได้จริง

7 เครื่องมือ AI ที่ช่วยดันให้ยอดขายออนไลน์ให้โตได้จริง แค่เลือกใช้ให้เหมาะกับร้านอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) และธุรกิจของคุณ ก็ขับเคลื่อนร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตได้อย่างมั่นคงแข็งแรง

7 เครื่องมือ AI ช่วยดันยอดขายร้าน E-commerce ให้โตได้จริง

AI: ตัวช่วยผลักดันอีคอมเมิร์ซที่ดีที่สุด

AI ถือเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำแห่งยุคที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในแทบทุกวงการ และวงการอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ก็เช่นกัน โดย AI ถูกนำเข้ามาประยุกต์ใช้ในเครื่องมือและฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อให้การขายของออนไลน์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับเพิ่มยอดขายให้ร้านได้จริง และหากคุณเป็นหนึ่งคนในวงการขายของออนไลน์และอีคอมเมิร์ซล่ะก็ ในบทความนี้เรามี 7 เครื่องมือ AI ที่จะช่วยให้คุณขับเคลื่อนธุรกิจได้ง่ายขึ้นและดันยอดขายร้านให้โตได้จริงมาแนะนำ

1.  ChatGPT

ChatGPT เครื่องมือ AI มาแรงแห่งยุคที่ไม่มีใครไม่รู้จักในตอนนี้ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยค้นหาคำตอบให้กับข้อสงสัยต่างๆ เช่น คำถามทั่วไป, การคำนวณ, การเขียนโปรแกรม, สูตรอาหาร ฯลฯ ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถค้นคว้า, แปลภาษา, เล่นมุกตลก รวมถึงช่วยเขียนแคปชั่นโซเชียลมีเดีย, ชื่อสินค้า, คำอธิบายสินค้า, อีเมล และอื่นๆ ได้อย่างแม่นยำและเป็นธรรมชาติ แล้วก็สามารถกำหนดน้ำเสียงหรือแนวทางของงานที่ต้องการได้ด้วย

หรือถ้าอยากลองเป็นงานศิลปะอย่างไอเดียการออกแบบสินค้าและสร้างรูปภาพ ChatGPT ก็ช่วยเสริมพลังความสร้างสรรค์ให้กับงานร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ตามต้องการ ที่สำคัญสามารถเริ่มต้นใช้งานได้ฟรี! หรือจะใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมจากแพ็คเกจฟรีก็เริ่มต้นที่เดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 670 บาท แล้วคุณจะสรรสร้างงานต่างๆ ให้กับร้านค้าออนไลน์หรือธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ChatGPT ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างทีมครีเอทีฟหรือคนคิดคอนเทนต์ได้ เพราะเครื่องมือ AI คือตัวช่วยที่ออกแบบมาได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

2.  Zaapi

อีกหนึ่งเครื่องมือ AI ที่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซต้องมีเป็นตัวช่วยธุรกิจก็คือ แชทบอท AI ไว้ตอบแชทลูกค้าอัตโนมัติ และ Zaapi ก็เป็นระบบรวมแชทที่มีเครื่องมือ AI นี้และช่วยแบ่งเบาภาระงานการตอบแชทลูกค้าได้จริง ซึ่งความสามารถในการตอบแชทลูกค้าได้อย่างอัตโนมัตินี่แหละที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้ทันทีพร้อมกับปิดการขายได้ไวขึ้นและลดโอกาสที่ลูกค้าจะหนีไปซื้อร้านอื่น

หากจะพูดถึงจุดเด่นของ Zaapi ในเรื่องของแชทบอท AI และฟีเจอร์ AI อื่นๆ ก็มีดังนี้:-

  • ส่งข้อความทักทายลูกค้าทันทีเมื่อลูกค้าทักแชท
  • ขอบคุณลูกค้าเมื่อจบการสนทนา
  • ตอบกลับลูกค้านอกเวลาทำการ
  • ตอบคำถามและส่งข้อมูลสินค้าแบบอัตโนมัติ
  • แอดมิน AI ที่มีฟังก์ชั่นการตอบกลับอัตโนมัติด้วย AI และมอบหมายงานให้แอดมินกรณีที่ AI ไม่สามารถตอบได้
  • สร้างระบบแชทอัตโนมัติด้วยเทมเพลตง่ายๆ และทดลองก่อนใช้งานจริงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
  • ใช้งานง่าย สามารถฝึก AI ของคุณให้กลายเป็นแอดมินตอบคำถามได้ในเวลาไม่กี่นาที

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

3.  Capcut

Capcut เป็นเครื่องมือตัดต่อที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนขายออนไลน์และคนที่อยู่ในวงการคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยตัดต่อวิดีโอมาก่อน หรือมืออาชีพก็สบาย ใช้งานง่าย เพราะ Capcut ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรังสรรวิดีโอใช้งานตามช่องทางต่างๆ ที่คุณต้องการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและลูกค้า รวมทั้งช่องทางที่คุณต้องการนำเสนอสินค้าและดึงดูดลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram, Facebook, YouTube, Podcast, เว็บอีคอมเมิร์ซ ฯลฯ ซึ่งฟีเจอร์ AI ที่น่าสนใจของ Capcut ก็มีหลายฟีเจอร์ด้วยกัน เช่น

  • AI Voice Generator โปรแกรมแปลงข้อความเป็นคำพูดด้วย AI
  • AI TikTok Video Maker โปรแกรมสร้างวิดีโอ TikTok ด้วย AI
  • AI YouTube Video Maker โปรแกรมสร้างวิดีโอ YouTube ด้วย AI
  • Instagram Reel Maker โปรแกรมสร้างวิดีโอ Reel ไอจี
  • Facebook Story Maker โปรแกรมสร้างเรื่องราวบนเฟสบุ๊คด้วยเทมเพลต

4.  Canva

Canva เครื่องมือคู่ใจคนรักการดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นการทำพรีเซนเทชั่น, โลโก้, การออกแบบรูปภาพประกอบโซเชียลมีเดีย, การสร้างวิดีโอ และอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่าข้อดีของ Canva ก็คือ ผู้ใช้งานสามารถดีไซน์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องออกแบบเองใหม่ทั้งหมด สามารถใช้งานเทมเพลตที่มีใน Canva ได้เลย และคุณยังสามารถเนรมิตไอเดียให้กลายเป็นจริงได้ด้วย AI ฟีเจอร์ใหม่ของ Canva ซึ่งไม่ว่าคุณจะต้องการสร้างรูปภาพ สร้างวิดีโอ หรือว่าแปลงข้อความเป็นเสียงพากย์ AI ที่ Canva ก็มีครบ ถือเป็นเครื่องมือ AI ที่ตอบโจทย์การขายของออนไลน์ในปัจจุบันมาก

เมื่อคุณใช้งาน Canva แล้ว ก็จะได้ผลลัพธ์อย่างมืออาชีพ ช่วยให้มีภาพและวิดีโอมือคุณภาพเยี่ยมไปใช้งานตามแพลตฟอร์มที่คุณต้องการนำเสนอสินค้าและบริการ เรียกว่าทั้งประหยัดแรงและเวลา แถมยังเรียกลูกค้าได้และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายจากรูปภาพและวิดีโอคุณภาพเยี่ยม ที่สำคัญ คุณสามารถใช้งาน Canva ได้ฟรี หรือถ้าต้องการฟีเจอร์ที่มากขึ้น ก็สามารถเริ่มต้นใช้งาน Canva Pro ได้ที่ราวๆ ปีละ 1,850 บาทต่อปีต่อคน

5.  Jasper.ai

หากต้องการเครื่องมือ AI เพื่อช่วยเขียนหรือสร้างคอนเทนต์แล้วล่ะก็ นอกจาก ChatGPT แล้ว Jasper.ai ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่น่าสนใจ เพราะคุณสามารถสร้างเนื้อหาได้อย่างหลากหลาย เช่น

  • บทความ
  • คำอธิบายสินค้า
  • แคปชั่นสำหรับโพสต์โซเชียลมีเดีย
  • สคริปต์วิดีโอ

ข้อดีของการใช้งาน Jasper.ai ก็คือ คุณจะได้ไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างคอนเทนต์ ทำให้เนื้อหาน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งยังช่วยลดระยะเวลาในการคิดคอนเทนต์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของร้านอีคอมเมิร์ซคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับราคา Jasper.ai นั้นก็มีทั้งแพ็คเกจครีเอเตอร์ (Creator) ที่เริ่มต้นราวๆ เดือนละ 39 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1,300 บาท โดยคร่าวๆ

6.  Copy.ai

อีกหนึ่งเครื่องมือ AI ที่ช่วยสร้างคอนเทนต์ได้อย่างมีอิสระและสร้างสรรค์ก็คือ Copy.ai หากคุณเน้นทำการตลาดผ่านอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือโฆษณา Copy.ai สามารถช่วยในส่วนนี้ได้ เพราะเครื่องมือ AI นี้มีเทมเพลตต่างๆ มาให้เลือกใช้งานมากมายและรองรับได้หลายภาษา

มากไปกว่านั้น Copy.ai ยังใช้ได้กับกการแปลภาษา, การทำการตลาด, CRM, การขาย, การดำเนินงาน และอีกมากมาย เรียกว่าเหมาะมากสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ต้องการฟังก์ชั่นที่ครอบคลุม เพราะฟีเจอร์ทั้งหมดนี้สามารถช่วยลดงานซ้ำซ้อน ลดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ อย่างไรก็ตาม หากต้องการทดลองใช้งานเครื่องมือ AI นี้ก็สามารถลองใช้งานแพ็คเกจฟรีได้เลย เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับธุรกิจของคุณจริงๆ

7.  Salesforce

Salesforce เป็นเครื่องมือ AI ที่ช่วยทำนายยอดขาย รวมถึงวางแผนการผลิตสินค้าและจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณหมดกังวลเรื่องสินค้าขาดสต๊อกหรือสต๊อกสินค้าเกินจำเป็น ทั้งยังช่วยให้วิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างแม่นยำขึ้นด้วยข้อมูลเชิงลึกและสามารถตัดสินใจเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นอกจากนี้แล้ว Salesforce ยังมีฟีเจอร์ AI CRM ที่ช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณเชื่อมต่อและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้ในระยะยาว ทั้งยังมีระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้สร้างโฟลว์การสนทนากับลูกค้าได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ไม่ว่าคุณจะมีความรู้ด้านนี้หรือไม่ ก็ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้อย่างไร้กังวล โดยคุณสามารถลองใช้งาน Salesforce ได้ฟรี และสามารถสมัครใช้งานรายเดือนหรือรายปีได้ หากเป็นรายเดือนก็เริ่มต้นที่เดือนละ 25 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 840 บาท โดยประมาณ

สรุป

เครื่องมือ AI ถือเป็นอาวุธลับที่ร้านอีคอมเมิร์ซและธุรกิจออนไลน์ยุคใหม่ต้องมี โดยเครื่องมือ AI ที่ช่วยดันให้ยอดขายออนไลน์ให้โตได้จริงนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งด้านการสร้างคอนเทนต์, การสร้างรูปภาพและวิดีโอ, การตลาด, การขาย, การบริการลูกค้า และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) เมื่อเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับขนาดร้านและกลยุทธ์ของตัวเอง จะช่วยให้ร้านออนไลน์ของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง และแข็งแรงกว่าคู่แข่งที่ยังไม่ปรับตัวใช้ AI

ใครที่ยังลังเล อย่ารอให้โอกาสหลุดมือ! ลองเริ่มต้นเลือกเครื่องมือ AI สักตัวที่เหมาะกับร้านของคุณ แล้วดูการเปลี่ยนแปลงของยอดขายได้เลย! ทั้งนี้หากคุณสนใจแชทบอท AI หรือแอดมิน AI ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง Zaapi คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะคุณจะพูดคุยกับลูกค้าได้ทันทีและมอบประสบการณ์ดีๆ ให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทักแชท เป็นการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ไปในตัว

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ฟีเจอร์แอดมิน AI และอื่นๆ ฟรี 7 วัน

{{cta-button="/th/cms-injection-content"}}

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

  • LINE OA: @zaapi
  • Facebook Page: Zaapi Thailand
  • Tel: 096-927-1729

รวมแชท ตอบแชท ทุกช่องทางการขาย ครบ จบ ในที่เดียว เพราะ Zaapi คือ ระบบแชทบอท AI ที่ดีที่สุดในไทย

 

อ้างอิง:

Thank you to Freepik for the image

May 30, 2025
May 30, 2025

ทดลองใช้ Zaapi ฟรี

ถ้าคุณพร้อมแล้วที่จะสัมผัสประสบการณ์การแชทกับลูกค้าที่ดีกว่า ลงทะเบียนตอนนี้และเริ่มใช้ Zaapi ฟรี
หากยังไม่แน่ใจ จองเวลาสาธิตการใช้งาน 30 นาที เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำการใช้งานระบบต่างๆ
ทั้งระบบอัตโนมัติและแชทบอท เพื่อเข้าใจว่าทำไมบริษัทต่างๆ ทั่วโลกจึงไว้วางใจใช้งาน Zaapi