กลับสู่หน้าบล็อกหลัก
Published
May 29, 2025
10
mins read

8 วิธีเขียนแคปชั่นขายของพร้อมตัวอย่างปัง ๆ ออเดอร์เข้ารัว ๆ

จะคิดแคปชั่นขายของปังๆ ยังไงดี หรือต้องเขียนแคปชั่นขายของออนไลน์ยังไงให้ออเดอร์เข้าไม่มีหยุด วันนี้เรามีทั้งเทคนิคและตัวอย่างการเขียนแคปชั่นขายของสุดเจ๋งที่พร้อมเรียกลูกค้ามาฝากกันเพียบ หมดห่วงแม้เป็นแม่ค้าออนไลน์มือใหม่ นอกจากนี้ยังโพสต์ขายในเฟสบุ๊ค ไลน์ ไอจี และ TikTok ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย! ขายดีสุดๆ ในปี 2025 นี้แน่นอน

สัญลักษณ์ข้อความและไอคอนการขาย แสดงถึงวิธีการเขียนแคปชั่นการขายที่น่าสนใจ

ก่อนจะไปดูวิธีเขียนแคปชั่น คุณอาจสนใจอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับการทำธุรกิจออนไลน์เพิ่มเติมได้ที่นี่:

8 เทคนิคเขียนแคปชั่นขายของเก่ง

สำหรับเทคนิคเขียนแคปชั่นขายของนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การทำ Social Media Marketing หรือการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น เฟสบุ๊ค, ไลน์, ไอจี และ TikTok โดยแคปชั่นโซเชียลที่ดีจะสามารถสร้าง Engagement และดึงดูดลูกค้าให้สั่งซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี และเทคนิคง่ายๆ ที่เรานำมาฝากก็มี 8 ข้อด้วยกันดังนี้ :

1. แตกต่างและสื่อถึงคนอ่านได้

แคปชั่นขายของที่ดีต้องโดดเด่นและแตกต่าง ที่สำคัญต้องสื่อสารถึงคนอ่านได้จริง แคปชั่นของคุณจึงจะเรียกลูกค้าให้กดไลค์ คอมเมนต์ และกดซื้อ CF สินค้าได้ง่ายขึ้น นั่นก็เพราะว่าโดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว โซเชียลมีเดียคือเครื่องมือในการสื่อสารในปัจจุบัน ถ้าโพสต์แคปชั่นไปแล้วลูกค้าไม่สะดุดตา ก็คงหมดโอกาสในการขาย

ดังนั้นแคปชั่นขายของของคุณจำเป็นต้องน่าสนใจ กระตุ้นให้คนอ่านไลค์ แชร์ และคอมเมนต์ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะคิดนอกกรอบและแตกต่าง นอกจากนี้ต้องไม่ลืมที่จะคิดถึงคนอ่านทุกครั้งก่อนจะโพสต์แคปชั่นขายของเพื่อให้แน่ใจว่าจะบรรลุเป้าหมายของการโพสต์ทุกครั้ง อย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเภทของโพสต์ด้วยว่าโพสต์แบบไหนที่ลูกค้าให้ความสนใจ กลุ่มลูกค้าเป็นสไตล์ไหน ชอบแนวตลกหรือแนวไหน ถ้าใช่ ก็ต้องเป็นแคปชั่นขายของกวน ๆ ฮา ๆ แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องปรับแคปชั่นไปตามสไตล์ที่ลูกค้าชอบ

2. ประโยคเปิดต้องโดน

ปกติแล้วคนเราจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วินาทีดูและอ่านโพสต์ก่อนจะเลื่อนผ่านไปโพสต์อื่น ๆ ในโซเชียล นั่นก็เพราะว่าส่วนใหญ่คนเรามักจะสมาธิสั้น คุณจึงต้องดึงดูดลูกค้าได้ตั้งแต่ประโยคแรกของแคปชั่น

ถ้ากำลังเปิดตัวสินค้าใหม่ ก็เปิดแคปชั่นให้ปังให้ลูกค้ารู้ไปเลย หรือถ้ามีแคมเปญแจกของฟรี ก็ต้องกล่าวให้ชัดในแคปชั่นพร้อมตั้งกฎกติกาให้เคลียร์ สิ่งที่สำคัญเลยในการเขียนแคปชั่นขายของก็คือ เขียนให้ลูกค้าอยากอ่านไปเรื่อยๆ ยิ่งแคปชั่นสั้นมากเท่าไหร่ ยิ่งโดนเท่านั้น ซึ่งแคปชั่นที่สร้าง Engagement และดึงความสนใจได้ดีจะมีความยาวประมาณ 100-250 ตัวอักษร ส่วนเทคนิคก็คือ ต้องใช้คำที่สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง เช่น ไลค์, คุณ, ของคุณ และควรใช้อีโมจิเพื่อสร้างสีสันให้แคปชั่น ทั้งยังใช้แฮชแท็กในประโยคเปิดในแคปชั่นขายของไอจีเพื่อให้โพสต์โดดเด่นขึ้นมาได้ด้วย เพื่อประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกแพลตฟอร์ม ระบบรวมแชท All-in-one Inbox สามารถช่วยจัดการการโต้ตอบกับลูกค้าทั้งหมดของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ถามคำถาม

เพราะอัลกอริทึมของไอจีหรือแม้จะทั่งคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มโซเชียลอื่น ๆ มักจะให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่มี Engagement เพราะฉะนั้นการถามคำถามลูกค้าในแคปชั่นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความอยากรู้และอยากมีส่วนร่วมกับโพสต์ของคุณมากยิ่งขึ้น เมื่อตั้งคำถามในแคปชั่นแล้วก็สามารถระบุได้เลยว่าอยากให้ลูกค้ามีส่วนร่วมแบบไหน เป็นไลค์ คอมเมนต์ แท็กเพื่อน หรือว่าแชร์โพสต์ เมื่อโพสต์มี Engagement สูง ตัวแพลตฟอร์มก็จะแสดงโพสต์ของคุณให้ลูกค้าเห็นมากขึ้น

ลูกค้าส่วนมากมักอยากมีส่วนร่วมและร่วมมือกับแบรนด์ที่พวกเขาสนใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะตั้งคำถาม แต่ก็ต้องเป็นคำถามที่เข้าใจง่ายและตอบง่ายด้วย อย่างเช่นในไอจีก็จะมีสตอรี่ที่คุณสามารถสร้างโพลแบบสำรวจให้ลูกค้าตอบคำถามได้ง่าย ๆ แต่แตะที่ตัวคำตอบ

4. ใส่ Call-to-Action (CTA)

ใส่ Call-to-Action (CTA) คำหรือประโยคที่กระตุ้นความสนใจและก่อให้เกิดการกระทำ เช่น คอมเมนต์ด้านล่าง, กดไลค์, กดแชร์, สั่งเลย ฯลฯ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้าง Engagement ให้โพสต์เท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มทราฟฟิก (Traffic) ให้เว็บไซต์และสร้างโอกาสในการขายด้วย ยิ่ง Call-to-Action (CTA) ชัดเท่าไหร่ โอกาสของคุณก็จะยิ่งมากเท่านั้น

นอกจากจะใส่ Call-to-Action (CTA) ไปยังหน้าเว็บขายสินค้าแล้ว ถ้าคุณอยากโปรโมทหน้าอื่น ๆ เช่น บล็อก, คำถามที่พบบ่อย, หน้าร้านค้าออนไลน์ ก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับว่าอยากโปรโมทอะไรจากสินค้าและบริการที่คุณมี หากต้องการทราบว่า CTA ใดมีประสิทธิภาพสูงสุด คุณสามารถ ใช้ข้อมูลเชิงลึกจาก Dashboard เพื่อเปลี่ยนแชทให้เป็นยอดขาย

5. มีสีสัน

สิ่งที่ช่วยเชื่อมร้านค้าและลูกค้าได้เป็นอย่างดีก็คือ การที่ร้านมีคอนเทนต์ที่ตรงกับลูกค้า และคอนเทนต์สามารถสร้างประโยชน์หรือส่งผลดีต่อลูกค้า ซึ่งไอเดียการเขียนแคปชั่นขายของก็ทำได้ทั้งการแผงไปด้วยแรงบันดาลใจ เสียงหัวเราะ และความสนุก

เมื่อลูกค้าเห็นว่าแคปชั่นและคอนเทนต์ของคุณสนุกและมีประโยชน์ ก็จะติดตามเพจร้านคุณอยู่เสมอและเกิความเชื่อใจ จากนั้นก็จะกลายเป็นลูกค้าของคุณแบบไม่รู้ตัว

6. เป็นตัวของตัวเอง

อย่าลืมว่าแบรนด์หรือร้านของก็มีตัวตน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า Brand Marketing ที่เกิดจากการที่เราสร้างบุคลิกภาพให้แบรนด์ เพราะฉะนั้นในการโพสต์คอนเทนต์ขายของหรือแคปชั่นต่าง ๆ ข้อความที่โพสต์จึงควรสะท้อนถึงตัวตนของร้าน เพราะให้ลูกค้ารู้สึกว่าร้านคุณเก๋ไม่เหมือนใครและอยากติดตามเรื่อยๆ จำไว้ว่าไม่ว่าจะขายสินค้าหรือสร้างแบรนด์อะไร ตัวตนคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าจดจำร้านของคุณ

7. เล่าเรื่อง

ไหน ๆ ก็ลองเขียนแคปชั่นขายของมาเกือบหมดละ ลองเล่าเรื่องบ้างเพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งเทคนิคเรียก Engagement ก็ไม่เสียหาย โดยวิธีที่ดีและช่วยให้ขายของปังก็คือเล่าเรื่องที่ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงได้ เช่น เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ปัญหาที่คนส่วนใหญ่มี หรือไม่ก็เล่าเรื่องฉีกแนวตลกไปได้เลย

วิธีนี้นอกจากจะทำให้แคปชั่นขายของและโพสต์ของคุณน่าสนใจแล้ว ยังแสดงถึงตัวตนของร้านได้เป็นอย่างดีด้วย คุณยังสามารถทำให้การโต้ตอบเบื้องต้นเป็นอัตโนมัติได้ เช่น การ ตั้งค่าตอบกลับคอมเมนต์อัตโนมัติบน Facebook และ Instagram ซึ่งจะช่วยนำไปสู่การเล่าเรื่องที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

8. ใช้แฮชแท็ก

การใช้แฮชแท็กในไอจี เฟสบุ๊ค และ Tiktok ถือว่าสำคัญมากกับแคปชั่นขายของ เพราะแฮชแท็กเหล่านี้เป็นเสมือนเครื่องมือที่จะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายค้นเจอร้านของคุณง่ายขึ้น ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องใช้คีย์เวิร์ดในแฮชแท็กเพื่อเพิ่มโอกาสให้ร้านเป็นที่รู้จักและมีคนสั่งซื้อสินค้า

เช่น ถ้าเปิดร้านขายเสื้อผ้า ก็สามารถใส่แฮชแท็กในประโยคแรกของแคปชั่นขายของเพื่อสร้างความแตกต่างให้โดดเด่น และแฮชแท็กที่น่าสนใจก็คือ #เสื้อผ้าแฟชั่น #เสื้อผ้าราคาเบาๆ #เสื้อผ้าสายฝอ และ #เสื้อผ้าวัยรุ่น เป็นต้น

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

20 ตัวอย่างแคปชั่นขายของออนไลน์สุดปัง

อ่านจบแล้วถ้ายังนึกไม่ออกบอกไม่ถูกว่าต้องใช้แคปชั่นขายของแบบไหนถึงจะช่วยให้ขายของเก่งและยอดขายเพิ่มขึ้นแบบปัง ๆ ลองดูตัวอย่างที่เรานำมาฝากเพื่อใช้เป็นไอเดียต่อยอดในการเขียนแคปชั่นขายของของคุณได้ เช่น

  1. ตอบเร็ว ส่งไว ซื้อง่าย ไม่ตุกติก
  2. ตรงปกกว่าแม่ค้าก็ของที่ร้านนี่แหละค้าาาา!!!
  3. ใครไม่กั๊ก เสื้อกั๊ก แต่ถ้าใครทัก รับโค้ดลดไปเลย
  4. น้ำปลาตราไก่ เค็มพอดี แฮปปี้ทุกคำ
  5. แค่มีใจ ราคาแบบไหนต่อรองกันได้
  6. อร่อยไม่อร่อยก็ชิมดูได้ แม่ค้านะ ไม่ใช่ขนม
  7. โปรดีแบบนี้ อย่าลืมช้อปให้คุ้มค้า
  8. ชุดมีครบทุกไซส์ มั่นใจ ทักได้จ้า
  9. ปลาร้านัว ปรุงแซ่บทุกเมนู เอาอยู่ทุกจาน
  10. ชุดสวย ๆ เก๋ ๆ ใส่แล้วดูดีมีราคาขึ้นมาทันที
  11. อยากได้ของดีให้กด CF แต่ถ้าอยากได้คนดูแลดั่งเซเลป ต้องบริการจากเรา
  12. ทักหน่อยแม่ค้าเหงา ราคาเบา ๆ ส่งฟรีถึงหน้าบ้านแน่นอน
  13. รองพื้นงานดี ทาวันนี้ สวยตอนนี้
  14. ขายถูกพร้อมส่งฟรี แต่ถ้าลูกค้าหน้าตาดี แถมแม่ค้าไปเลยค้าาาา
  15. รีบ CF กันเข้ามา ก่อนแม่ค้าจะปิดร้านหนี
  16. ปีใหม่นี้มีของขวัญดีๆ ให้แม่ชื่นใจหรือยัง ถ้ายังแม่ค้ายังว่างนะ
  17. ขายตลอด ขายทุกวัน ยกเว้นวันแม่ค้าถูกหวย!
  18. โพสต์บ่อย ๆ อย่ารำคาญ กด CF กันไปนาน ๆ นะคุณลูกค้าที่น่ารัก
  19. พอดีที่ร้านไม่มีโปรส่งฟรี เป็นไลน์ไอดีแม่ค้าแทนได้มั้ยจ๊ะ
  20. ไม่ได้อยู่ในใจ แต่ขอเป็นขี้ตาเธอก็ยังดี จะได้อยู่ในสายตาคุณลูกค้า ฮิ้ววว!!!

สรุป

ทั้งหมดนี้คือแคปชั่นขายของปัง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายร้านให้กับคุณได้มากขึ้น ซึ่งก็ต้องบอกว่าต้องอาศัยเทคนิคที่จะทำให้แคปชั่นสนุก น่าสนใจ และดึงดูดลูกค้า สามารถทำได้หมดทั้งแคปชั่นขายของที่ตั่งคำถามเพื่อสร้าง Engagement ลูกค้า บอกเล่าเรื่องราวให้ลูกค้าเชื่อมโยงและกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมหรือการซื้อขายผ่าน Call-to-Action (CTA) หรือจะเพิ่มสีสันให้แคปชั่นด้วยอีโมจิและมุกตลก ๆ เป็นแคปชั่นขายของกวน ๆ ฮา ๆ ก็กระตุ้นการขายของออนไลน์ให้ปังด้วยเช่นกัน

ทดลองใช้ Zaapi ฟรี และเพิ่มพลังให้ธุรกิจแชทคอมเมิร์ซของคุณ

{{cta-button="/th/cms-injection-content"}}

มีคำถามเพิ่มเติมใช่ไหม? ติดต่อเรา

ไปที่หน้า ติดต่อเรา เพื่อสอบถามข้อมูล

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub

May 30, 2025
May 30, 2025

ทดลองใช้ Zaapi ฟรี

ถ้าคุณพร้อมแล้วที่จะสัมผัสประสบการณ์การแชทกับลูกค้าที่ดีกว่า ลงทะเบียนตอนนี้และเริ่มใช้ Zaapi ฟรี
หากยังไม่แน่ใจ จองเวลาสาธิตการใช้งาน 30 นาที เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำการใช้งานระบบต่างๆ
ทั้งระบบอัตโนมัติและแชทบอท เพื่อเข้าใจว่าทำไมบริษัทต่างๆ ทั่วโลกจึงไว้วางใจใช้งาน Zaapi