TikTok Marketing หรือการทำการตลาดบน TikTok คือสิ่งที่พ่อค้าแม่ค้าในยุคนี้ไม่ควรมองข้าม เนื่องจาก TikTok คือแพลตฟอร์มวิดีโอที่โตเร็วมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แถมแต่ละวิดีโอที่ขึ้นเทรนด์ของแพลตฟอร์มก็มียอดวิวสูงเป็นหลักล้าน
นั่นหมายความว่ายิ่งมีคนเห็นวิดีโอของธุรกิจคุณมากเท่าไหร่ โอกาสในการทำเงินของคุณก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเพื่อช่วยให้พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่เช่นคุณปรับตัวเข้ากับเทรนด์นี้ได้ดียิ่งขึ้น เราก็มี 12 กลยุทธ์ในการทำ TikTok Marketing ที่จะช่วยให้ร้านหรือแบรนด์ของคุณโดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำมาบอกต่อดังนี้ :-
ดาวน์โหลดแอป Zaapi แล้วเริ่มทำการตลาดบน Tiktok
1. ทำความคุ้นเคยกับ TikTok
แน่นอนว่าก่อนจะเริ่มทำการตลาดบน TikTok คุณจะต้องรู้จักและเข้าใจตัวแพลตฟอร์มในระดับหนึ่ง เพราะ TikTok Marketing ค่อนข้างแตกต่างจากการทำ Social Media Marketing อื่น ๆ อย่าง Facebook และ Instagram เนื่องจาก TikTok มีเทรนด์ ฟีเจอร์ และพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เฉพาะเจาะจง
ดังนั้นลองใช้เวลาในการสังเกตตัวแพลตฟอร์ม โดยเริ่มจาก
- ศึกษาวิธีการใช้งาน
- ดูว่ามีฟีเจอร์อะไรบ้าง
- ดูรูปแบบและประเภทวิดีโอที่เป็นที่นิยม
- ติดตามมีเพลงที่กำลังเป็นกระแส
- แฮชแท็กที่แต่ละร้านหรือแบรนด์ใช้กัน
- ศึกษาหลักการจัดอันดับและการแสดงผลวิดีโอ (TikTok Algorithm)
สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนคอนเทนต์ แฮชแท็ก และกลยุทธ์สร้าง Engagement ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
2. ระบุลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
คำถามง่าย ๆ “ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการให้พบเห็นสินค้าและบริการของคุณบนแพลตฟอร์ม TikTok คือใคร?”
ถ้าตอบได้ ทุกอย่างก็จะง่ายมากขึ้นหลายเท่าตัว เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเริ่มสร้างคอนเทนต์ให้ศึกษากลุ่มผู้ใช้งานที่อาจสนใจในร้านหรือแบรนด์ของคุณ
โดยทั่วไปแล้ว กลุ่มผู้ใช้งาน TikTok ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอายุ 18-24 ปี ตามมาด้วยกลุ่ม 13-17 ปี และ 25-34 ปี แต่ก็อย่าลืมศึกษาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใน Social Media แพลตฟอร์มอื่น ๆ ด้วย จะได้เปรียบเทียบและดูว่ามีกลุ่มไหนที่คุณสามารถเข้าถึงใน TikTok ได้บ้าง
หลังจากที่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใครแล้ว ก็เริ่มศึกษารูปแบบและประเภทคอนเทนต์ที่กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มที่จะชอบและมีส่วนร่วม จากนั้นก็เริ่มวางแผนคิดคอนเทนต์ได้เลย
3. ศึกษาคู่แข่งของคุณ
คู่แข่งของคุณก็อยู่บน TikTok ใช่ไหม? ถ้าใช่ แล้วคุณยังไม่มีบัญชีผู้ใช้งาน คุณก็อาจจะกำลังพลาดโอกาสดี ๆ อยู่เป็นแน่ แต่ถ้าคู่แข่งยังบนแพลตฟอร์มยังไม่เยอะ บอกเลยว่ามีโอกาสที่ร้านของคุณจะเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นแน่นอน
ลองศึกษาคู่แข่งสัก 3-5 รายและดูว่าพวกเขาทำคอนเทนต์แนวไหนและมีวิธีการเข้าถึงลูกค้ายังไง ดูว่าแนวไหนได้ผลบ้าง จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับใช้กับร้านของคุณ
ลองลิสต์ออกมาเลยว่าคู่แข่งแต่ละรายมีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง แล้วมีโอกาสอะไรบ้างสำหรับร้านของคุณ ถ้าทำตามนี้รับรองว่าคุณจะได้คอนเทนต์ที่แตกต่าง พร้อมเพิ่มผู้ติดตามให้ร้านและดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นแน่นอน
4. ตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ
แม้ว่า TikTok เหมือนจะเป็นแพลตฟอร์มที่ดูเหมือนเน้นความสนุกสนาน แต่ก็ไม่ควรทำคอนเทนต์โดยที่ไม่มีเป้าหมาย ให้พยายามออกแบบคอนเทนต์และเป้าหมายของแพลตฟอร์มให้ไปในทิศทางเดียวกันกับเป้าหมายของธุรกิจคุณด้วย
ไม่ว่าจะวางแผนการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เสริมภาพลักษณ์แบรนด์ สร้าง Brand Awareness หรือสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Engagement Rate ก็ควรตั้งเป้าหมายให้สมเหตุสมผลและสามารถทำได้จริง คือไม่ควรตั้งให้ง่ายหรือยากมากเกินไป
โชคดีที่ TikTok มีฟีเจอร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกให้คุณได้ดูข้อมูลสำคัญประกอบการตัดสินใจในการวางแผนคอนเทนต์ให้ถูกใจผู้ติดตามและตั้งเป้าหมายเป็นลำดับถัดไป
ดาวน์โหลดแอป Zaapi แล้วเริ่มทำการตลาดบน Tiktok
5. โพสต์อย่างสม่ำเสมอ
TikTok Marketing ก็เหมือนกับการทำการตลาด Social Media Marketing แพลตฟอร์มอื่น ๆ คือต้องอาศัยความสม่ำเสมอ ควรมีตารางการโพสต์วิดีโอคอนเทนต์ให้ชัดเจน ถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็เหมือนปฏิทินอีเวนต์ในชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ แค่เปลี่ยนจากอีเวนต์ของเราให้กลายเป็นคอนเทนต์ที่จะโพสต์แทน
ให้กำหนดเลยว่าจะโพสต์อาทิตย์ละกี่ครั้ง จากนั้นก็ทำเป็นประจำ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าอยู่เสมอ แค่ทำตามนี้ร้านคุณก็จะเพิ่มผู้ติดตามได้แน่นอน
6. ติดตามผลลัพธ์
ข้อมูลเชิงลึกคือเครื่องมือสำคัญในการทำการตลาด TikTok เพราะมีข้อมูลจำเป็นทั้งหมด เช่น ยอดวิววิดีโอ จำนวนผู้ติดตาม ที่อยู่ของผู้ติดตามหรือกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนร่วมกับร้าน และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยชี้วัดว่ากลยุทธ์ในการทำคอนเทนต์ของคุณได้ผลหรือไม่และควรปรับปรุงไปในรูปแบบไหนเพื่อให้สอดคล้องกับผู้ติดตามมากยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงควรเช็คข้อมูลเชิงลึกเดือนละครั้ง
7. ทดลองอะไรใหม่ ๆ
สำหรับคอนเทนต์บน TikTok แล้ว ไม่มีกฏเกณฑ์อะไรตายตัว เพราะตัวแพลตฟอร์มจะมีเทรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ ดังนั้นทางร้านควรทดลองอะไรใหม่ ๆ และทำคอนเทนต์ตามเทรนด์เพื่อเพิ่มการมองเห็นและสร้าง Brand Awareness ไปพร้อม ๆ กัน
ถ้าทดลองแล้วไม่ได้ผล ก็ให้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและคิดแผนคอนเทนต์ใหม่ ไม่ควรจมอยู่กับความผิดหวังนาน ๆ
นอกจากนี้ควรมีคอนเทนต์ของร้านควรมีความสร้างสรรค์ สนุก และแตกต่างด้วย ที่สำคัญต้องตามกระแสจึงจะประสบความสำเร็จในการทำ TikTok Marketing
8. ใช้แฮชแท็ก
แฮชแท็กช่วยร้านและแบรนด์ต่าง ๆ ได้มากในการทำการตลาด TikTok โดยเฉพาะแฮชแท็กที่ติดเทรนด์ จะช่วยให้วิดีโอของร้านติดหน้าค้นหามากขึ้น จึงช่วยเพิ่มยอดวิวไปในตัว คุณจึงควรให้ความสำคัญกับการใช้คีย์เวิร์ดให้มาก ๆ ในการทำคอนเทนต์วิดีโอบนแพลตฟอร์มนี้
มีหลายร้านและแบรนด์ชอบใส่แฮชแท็กอินเทรนด์ในแคปชั่น ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเสมอไปโดยเฉพาะในแง่ของการทำการตลาด แต่ควรเลือกใส่แฮชแท็กที่ต้องการเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้ทำได้ง่าย ๆ โดยการศึกษาวิดีโอต่าง ๆ ที่ใช้แฮชแท็กเดียวกัน จากนั้นก็ให้สังเกตยอดวิวและเทรนด์ของแฮชแท็ก จากนั้นก็ดูว่าสามารถปรับใช้อะไรให้แตกต่างสำหรับแบรนด์หรือร้านของคุณได้บ้าง
ดาวน์โหลดแอป Zaapi แล้วเริ่มทำการตลาดบน Tiktok
9. ใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ในการทำการตลาด
อีกหนึ่งเทคนิค TikTok Marketing ที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ การใช้อินฟลูเอ็นเซอร์เป็นตัวกลางโปรโมทสินค้าและบริการของร้าน ทั้งนี้ก็ต้องเลือกอินฟลูเอ็นเซอร์ให้เหมาะกับแบรนด์ของคุณด้วย จะได้สื่อกับผู้ติดตามและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น และก่อให้เกิดการซื้อขายได้ในที่สุด
ตัวอย่าง ถ้าเป็นแบรนด์เครื่องสำอางก็ต้องใช้บิวตี้บล็อกเกอร์หรือช่างแต่งหน้า ถ้าเป็นแบรนด์เกี่ยวกับการออกกำลังกาย แน่นอนว่าก็ต้องใช้อินฟลูอินเซอร์สายเฮลตี้ หรือถ้าเป็นร้านอาหารก็สมารถใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ทั่วไปได้ เป็นต้น
10. ใช้เอฟเฟ็กต์สร้างคอนเทนต์
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ TikTok ต่างจาก Social Media อื่น ๆ ก็คือ เราสามารถสร้างวิดีโอคอนเทนต์ได้จากเอฟเฟ็กต์ ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าเอฟเฟ็กต์ไม่น่าจะช่วยอะไรได้เยอะในเรื่องของการทำการตลาด แต่บอกเลยว่าตัวเอฟเฟ็กต์ช่วยเพิ่มยอดวิววิดีโอได้ดีมาก ๆ
ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นลูกค้าแล้วเห็นวิดีโอพร้อมเอฟเฟ็กต์เจ๋ง ๆ ก็คงอยากจะคลิกดูใช่ไหม เพราะฉะนั้นต้องใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์นี้เพิ่มยอดวิวให้กับวิดีโอของคุณ ทั้งนี้เมื่อเลือกเอฟเฟ็กต์ได้แล้ว ก็ต้องใช้ภาพปกให้ดึงดูดและน่าสนใจด้วย
11. เน้นความสนุกสนานและความตลก
ความสนุกสนานและความตลกคือสิ่งที่ทำให้ผู้ติดตามของคุณมีความสุขและมีเสียงหัวเราะไปพร้อม ๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นเหมือนกลยุทธ์สำคัญของการทำคอนเทนต์บน TikTok
ข้อดีคือแม้ว่าวิดีโอจะเป็นของร้านหรือแบรนด์ แต่ถ้าน่าสนใจพอประกอบกับมีเรื่องเล่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย ผู้คนก็จะดูวิดีโอนั้นจนจบแน่นอน
ถ้าอยากเพิ่มยอดวิวให้มากขึ้นไปอีก ควรสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มผู้ติดตามและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของคุณด้วย แค่นี้ก็จะได้คอนเทนต์ที่สนุก ๆ และช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักไปพร้อม ๆ กันแล้ว
12. มีส่วนร่วมและโต้ตอบกับผู้ติดตาม
ใช้เวลาในการโต้ตอบและมีส่วนร่วมกับคอมเมนต์ของผู้ติดตาม เพื่อให้พวกเขารู้สึกสำคัญและเห็นว่าทางร้านไม่ได้เพิกเฉยแล้วก็น้อมรับทุกคำติชม หรือถ้าช่วงแรกของการทำคอนเทนต์ไม่มีคอมเมนต์เยอะก็สามารถลองเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ช่วยได้
- กดติดตามผู้ใช้งานอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มคนดัง อินฟลูเอ็นเซอร์ ดารา หรือกลุ่มคนที่มีชื่อเสียง
- คอมเมนต์บนวิดีโอของผู้ใช้งานอื่น ๆ
- ไลค์วิดีโอของผู้ใช้งานอื่น ๆ
- สร้างเทรนด์หรือสร้างคอนเทนต์ที่อินเทรนด์ไปกับกระแส
- แท็กผู้ใช้งานในคอมเมนต์เพื่อโต้ตอบหรือสนทนา
เปิดร้านของคุณบน Tiktok Shop TH ได้แล้ววันนี้ คลิก ที่นี่
Tiktok @zaapithailand
สรุป
และทั้งหมดนี้ก็คือกลยุทธ์ในการทำ TikTok Marketing ที่จะช่วยยกระดับร้านของคุณให้น่าดึงดูดและเป็นที่น่าจดจำในกลุ่มผู้ติดตาม แถมยังช่วยเพิ่มผู้ติดตามใหม่ ๆ และเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านได้ด้วย หากมีเคล็ดลับดี ๆ เพิ่มเติมสามารถคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!
สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน
{{cta-button="/cms-injection-content"}}
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง
- LINE OA: @zaapi
- Facebook Page: Zaapi Thailand
- Tel: 096-927-1729
Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub