10 กลยุทธ์ CRM ที่ช่วยเพิ่มยอดขายร้านให้สำเร็จเร็วขึ้นปี 2023

กลยุทธ์ CRM คือหนึ่งในหัวใจความสำเร็จในการทำธุรกิจรวมถึงขายของออนไลน์ในปัจจุบัน เพราะหากคุณใส่ใจแค่ยอดขายแต่ไม่รู้เทคนิคที่จะพาไปถึงตรงนั้น คุณก็อาจจะเสียเวลาก็เป็นได้ ดังนั้นกลยุทธ์ CRM นี่แหละที่จะช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายและขับเคลื่อนให้ร้านประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นในปี 2023 นี้ เพราะนี่เป็นเทคนิคการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าที่จะนำมาซึ่งรายได้ของร้านคุณ ส่วนจะต้องทำยังไงบ้างนั้น ไปดูพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย!

‍

1. ตั้งเป้าหมาย

ก่อนจะคิดค้นหรือวางแผนกลยุทธ์การทำ CRM คุณจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เช่น อาจจะตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย และขยายฐานลูกค้า เป็นต้น เมื่อรู้เป้าหมายแล้ว คุณก็จะวางแผนการทำงานไปยังเป้าหมายนั้นได้อย่างง่ายดาย แนะนำให้แบ่งเป้าหมายแยกย่อยออกมาทีละสเต็ปก่อน แล้วค่อย ๆ ลงมือทำ เพราะวิธีนี้จะช่วยให้คุณสำเร็จได้ง่ายขึ้นและมีแรงบันดาลใจมากขึ้นในการทำเป้าหมายใหญ่ ๆ ให้สำเร็จ เช่น หากตั้งเป้าหมายไว้ว่าเดือนนี้จะสร้างฐานลูกค้าสมาชิกให้ครบ 100 คน ก็ต้องดูว่าแต่ละอาทิตย์จะต้องหาลูกค้าสมาชิกให้ได้กี่คนเดือนหนึ่งถึงจะครบ 100 คน

‍

2. ใช้ระบบเข้าช่วย

‍

ปัจจุบันมีระบบ CRM ฟรีมากมายที่ช่วยให้ร้านเก็บข้อมูลและบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ถ้าคุณรู้สึกว่าต้องเสียเวลากรอกข้อมูลลูกค้าแบบแมนวลแบบเดิมอยู่ซ้ำ ๆ บอกเลยว่าคุณสามารถทำขั้นตอนนี้ให้เป็นอัตโนมัติได้ด้วย ระบบ CRM เพราะเจ้าระบบนี้ช่วยบันทึกข้อมูลลูกค้าทั้งยังทุ่นแรงและเวลาได้เป็นอย่างดี ให้คุณมีเวลาไปคิดเทคนิคการเพิ่มยอดขายและแผนการตลาดมากยิ่งขึ้น และพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าก็จะมีเวลาไปทำงานอื่นที่สำคัญ ๆ มากกว่าเดิม

‍

3. มี Loyalty Program และให้รางวัลลูกค้า

‍

ลองสังเกตดูสิว่าร้านดัง ๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่าง IKEA หรือ Strabucks มักจะมีระบบสมาชิกและ Loyalty Program กันทั้งนั้น นั่นก็เพราะว่าลูกค้าชื่นชอบร้าน หรือแบรนด์ที่ช้อปแล้วได้รางวัลกลับมานั่นเอง จึงไม่แปลกใจที่ทั้งธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร และธุรกิจทุกประเภทต่าง ๆ หันมามีระบบสมาชิกกันมากขึ้น ตัวอย่างของ Loyalty Program ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันก็คือ ระบบสะสมแต้มเพื่อรับส่วนลดและการมอบแคชแบ็คเพื่อแลกซื้อสินค้า การที่ร้านให้รางวัลลูกค้าในรูปแบบที่ใช้จ่ายได้แบบนี้ ลูกค้าก็จะมีแนวโน้มที่จะกลับมาซื้อของและใช้บริการกับที่ร้านมากยิ่งขึ้น นั่นก็เพราะว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่อยากเสียคะแนนหรือยอดแคชแบ็คไปฟรี ๆ นอกจากนี้หากจะพูดถึงแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ CRM ได้อย่างน่าสนใจอีกหนึ่งแบรนด์ก็คือ Sephora ลูกค้าสมาชิกของ Sephora แต่ละระดับจะได้สิทธิประโยชน์ที่คล้ายกันคือการสะสมแต้มเพื่อแลกรับของรางวัลและใช้แลกเป็นส่วนลด แต่ในระดับสูงสุดจะมีสิทธิพิเศษคือได้ส่วนลดมากกว่าลูกค้าสมาชิกระดับอื่น แถมยังช้อปไอเท็มลดราคาได้เร็วกว่าด้วย ลูกค้าสาว ๆ ที่คลั่งไคล้ในเครื่องสำอาง และสกินแคร์จึงมักจะใช้จ่ายกันมากขึ้นเพื่อให้ได้เป็นสมาชิกระดับสูงสุดของ Sephora นั่นเอง

‍

4. ตรวจสอบฐานข้อมูลลูกค้าเป็นประจำ

เช็คฐานข้อมูลลูกค้าเป็นประจำเพื่อดูว่าลูกค้าคนไหนคือขาประจำและลูกค้าคนไหนที่เริ่มถอยห่างจากร้าน เมื่อมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ถูกต้องและแม่นยำแล้ว คุณก็จะส่งโปรโมชันหรืออัปเดตข่าวสารได้ถึงกลุ่มลูกค้าที่ใช่จริง ๆ เป็นการเลี่ยงสแปมอีเมลลูกค้าและลดโอกาสในการโดนบล็อกหรือเลิกติดตามข่าวสารจากลูกค้า เมื่อคุณส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ถึงกลุ่มลูกค้าจริง ๆ หรือกลุ่มที่ต้องการรับอัปเดตจากทางร้านจริง ๆ คุณก็จะปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพราะการตรวจสอบฐานข้อมูลลูกค้าเป็นประจำจะช่วยให้คุณวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ได้อย่างเฉียบคมมากขึ้นนั่นเอง

‍

5. คิดคอนเทนต์เพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างยอดขาย

อีกหนึ่งกลยุทธ์ CRM ที่ได้ผลก็คือการทำคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างร้านกับลูกค้า นี่คือวิธีที่จะทำให้ลูกค้าเข้าหาคุณอย่างได้ผล เพียงมีเทคนิคการทำคอนเทนต์ที่ใช่ และเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า เช่น อาจจะเป็นปัญหาที่ลูกค้ามี หรือไอเดียและเคล็ดลับต่าง ๆ เป็นต้น คอนเทนต์ที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่นิยมในการสานความสัมพันธ์กับลูกค้าก็คือ การทำคอนเทนต์ CRM ผ่านโซเชียลมีเดียและการเขียนบทความ โดยคอนเทนต์ที่ว่านี้ต้องเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ แล้วก็ต้องตอบคำถามที่ลูกค้ามีคอนเทนต์สามารถช่วยเสริมสร้างเกมการขายสินค้าและความสัมพันธ์ระหว่างร้านกับลูกค้าให้แข็งแกร่งขึ้นได้ เพียงแค่ร้านจะต้องมีคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าและเข้าถึงง่าย หรือจะวางร้านให้เป็นผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมเสิร์ฟเนื้อหาสาระสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะก็ได้ วิธีนี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและส่งผลดีต่อยอดขายของร้านได้ในระยะยาว

‍

6. สร้างการสื่อสารเฉพาะบุคคล

การขายของในยุค 2023 ร้านจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการส่งข้อความ และการส่งอีเมลถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น เพราะกลยุทธ์ CRM ที่ดีนั้น ร้านจะต้องรู้จักลูกค้าให้ดี ไม่ใช้แค่เพียงผิวเผิน คือต้องรู้ว่าลูกค้าชื่ออะไร ชอบสินค้าประเภทไหนในร้าน หรือซื้อสินค้าไหนในร้านบ่อยที่สุด ที่สำคัญจากการศึกษาของ Wunderind เว็บไซต์การตลาดยังระบุอีกว่า 72% ของลูกค้าจะมีส่วนร่วมกับการสื่อสารที่เป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้น ดังนั้นในการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร ทางร้านจะต้องแบ่งกลุ่มลูกค้าและร้อยเรียงข้อความให้เหมาะกับลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ มากที่สุด ลูกค้าจึงจะสามารถเชื่อมโยงและเกิดความรู้สึกคล้อยตามจนอยากซื้อสินค้าในที่สุดที่สำคัญ ในข้อความหรืออีเมลที่ส่งไปจะต้องใส่ชื่อลูกค้าด้วย เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงความพิเศษและรับรู้ว่าร้านกำลังสื่อสารถึงพวกเขาจริง ๆ คราวนี้ไม่ว่าจะส่งต่อโปรโมชัน แนะนำสินค้าใหม่ หรืออัปเดตประเภทไหน คุณก็จะปิดการขายได้ง่ายขึ้นแน่นอน

‍

7. สื่อสารกับพนักงาน

การจะสร้างกลยุทธ์ CRM ให้สัมฤทธิ์ผลได้นั้น ทางร้านจะต้องคำนึงถึงทุกปัจจัยรอบด้าน โดยเฉพาะพนักงานในร้าน ควรให้พนักงานมีส่วนเกี่ยวข้องและแสดงความคิดเห็น หรือแจ้งให้พนักงานรู้ถึงแนวทางของร้านเพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วมและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของร้านจริง ๆ ไม่ใช่เพียงแค่ทำหน้าที่แล้วจบไปเมื่อคุณแจ้งให้พนักงานรู้เกี่ยวกับแผน CRM ของร้านอย่างทั่วถึงแล้ว ทุกคนก็จะทำงานกันเป็นทีมได้อย่างเต็มที่ แล้วร้านคุณก็จะบรรลุเป้าหมายยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยั่งยืนยิ่งขึ้น

‍

8. ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อจำเป็น

อาจจะมีบางครั้งที่คุณลองทำเทคนิค CRM บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแล้วไม่เวิร์ก นั่นแสดงว่าคุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และทดลองเทคนิคใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้กับร้าน อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ควรแจ้งพนักงานในร้านทุกครั้งและค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป พนักงานและลูกค้าจะได้ไม่สับสนเกี่ยวกับนโยบายของร้าน หากหุนหันพลันแล่นก็อาจจะเกิดความเสียหายหรืออาจะเสียลูกค้าไปเลยก็ได้

‍

9. วิเคราะห์เพื่อปรับปรุง

เมื่อมีโปรแกรมหรือระบบ CRM แล้ว คุณควรวิเคราะห์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับปรุงทั้งในส่วนของยอดขาย คุณภาพสินค้า และการบริการลูกค้า เพราะระบบ CRM ที่ดีจะมีข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำร้านและเป็นประโยชน์อย่างมากเพื่อดูว่าต้องใช้กลยุทธ์ไหนถึงจะเรียกลูกค้ากลับมาที่ร้านได้ ซึ่งเคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือ ควรสร้างและขยายฐานลูกค้าขาประจำให้ได้ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้คือกลุ่มรายได้หลักของร้าน แล้วก็ไม่ควรใส่ใจแค่การหาลูกค้าใหม่เท่ากัน แต่ต้องมีกลยุทธ์ CRM ที่โน้มน้าวให้ลูกค้าที่มีไม่เปลี่ยนใจไปที่อื่นด้วย อย่าง Loyalty Program ที่แนะนำไปข้างต้นนั้นถือว่าทุกร้านจำเป็นต้องมีเลยล่ะ

‍

10. ให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกคน

และเหนือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก็คือ ลูกค้า ดังนั้นคุณจะต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญรวมทั้งเปิดใจรับฟังปัญหาของลูกค้าด้วย แล้วก็ต้องปฏิบัติต่อลูกค้าทุกคนอย่างเท่าเทียมแม้จะเป็นลูกค้าขาประจำหรือคนที่อาจจะเป็นหรือไม่เป็นลูกค้าใหม่ก็ตาม เพราะปัจจุบันการตลาดแบบบอกต่อปากต่อปากและพลังโซเชียลยังแรงมาก ดังนั้นควรรักษาชื่อเสียงของร้านและดูแลลูกค้าทุกคนที่เดินเข้ามาในร้านหรือแม้กระทั่งหน้าร้านออนไลน์ให้ดีที่สุดจะดีกว่า

‍

สรุป

นี่คือกลยุทธ์ CRM ในปี 2023 ที่จะช่วยให้ร้านคุณเพิ่มยอดขายได้ตามเป้าเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ต้องอาศัยระบบ CRM ที่ดี, พนักงาน, การดูแลลูกค้า รวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังต้องอาศัยการสื่อสารเฉพาะบุคคลที่ต้องตรงกับความต้องการของลูกค้าด้วย แต่ทั้งหมดนี้บอกเลยว่าไม่ยากหากมีการวางแผนการทำงานที่ดี แล้วคุณจะรู้ว่ากลยุทธ์ CRM ที่แหละคือพระเอกตัวจริงในการขายของและทำธุรกิจในปัจจุบัน

‍

ระบบ CRM เป็นระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าที่มีประโยชน์ต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก โดย CRM ไม่ได้ส่งผลดีในด้านของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การสื่อสารภายในองค์กรธุรกิจ การทำงานภายในทีม รวมถึงการวางแผนแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ขายสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิผล  เพราะลูกค้าคือหัวใจสำคัญของธุรกิจ คุณจึงต้องมั่นใจว่าดูแลและให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา และ CRM ก็ช่วยตรงนี้ได้เยอะมาก แล้วร้านคุณล่ะ มีระบบ CRM ดี ๆ ไว้ใช้งานหรือยัง ? หากกำลังหาตัวเลือกเจ๋ง ๆ แถมยังใช้งานได้ฟรีและตอบโจทย์การใช้งานขั้นพื้นฐานล่ะก็ ขอแนะนำ Zaapi ตัวช่วยเปิดร้านค้าออนไลน์ฟรีที่มาพร้อมฟีเจอร์ CRM ที่พร้อมยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น แล้วคุณจะมีทั้งเว็บขายออนไลน์เป็นของตัวเองแถมมีระบบสมาชิกใช้แบบฟรี ๆ ! อย่าช้า

‍

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

‍

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

‍

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

• LINE OA: @zaapi
• Facebook Page: Zaapi Thailand
• Tel: 096-927-1729

‍

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub