ดรอปชิป คืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียยังไง ทำยังไงให้ขายดี?

ถ้าขายของออนไลน์อยู่แต่ยังไม่รู้จักดรอปชิป (Dropship) บอกเลยว่าพลาดมาก ๆ เพราะวิธีนี้มีความเสี่ยงน้อย แถมไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเองก็เริ่มขายออนไลน์ได้ด้วย และสำหรับคนที่สนใจทำดรอปชิปแล้วอยากลองทำดู ในบทความนี้เราจะพามาเจาะลึกตั้งแต่ดรอปชิปคืออะไร มีข้อดี-ข้อเสียยังไง และต้องใช้เทคนิคแบบไหนถึงจะขายดี 

ดรอปชิป คืออะไร?

ดรอปชิป (Dropship) คือ การขายสินค้าออนไลน์แบบไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง ถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือ รับสินค้าของคนอื่นมาขายนั่นเอง โดยคนที่ทำดรอปชิปจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อนำสินค้าของร้าน แบรนด์ หรือว่าโรงงานมาขายในช่องทางออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งถ้าจะสรุปสั้น ๆ จริง ๆ การทำดรอปชิปก็คือการเป็น “ตัวแทนจำหน่าย” นั่นเอง

ซึ่งตัวอย่างของการทำดรอปชิปหรือตัวแทนจำหน่ายก็มีหลายอย่างด้วยกัน เช่น

• ตัวแทนจำหน่ายเสื้อผ้า ไม่สต๊อกสินค้า
• ตัวแทนจำหน่ายขายที่นอน
• ตัวแทนจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ
• ตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง
• ฯลฯ

ข้อดี-ข้อเสียของการทำดรอปชิป มีอะไรบ้าง?

แม้ดรอปชิปจะเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเหมือนกับธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งถ้าหากสนใจจะเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือว่าทำดรอปชิป นี่คือข้อดีและข้อเสียที่จะต้องรู้ไว้

ดาวน์โหลดแอป Zaapi แล้วเริ่มขายของออนไลน์

ข้อดีของการทำดรอปชิป

1. ไม่ต้องมีเงินลงทุนมากก็ทำได้

บอกเลยว่าข้อดีของดรอปชิปอันดับแรก ๆ เลยคือ ใช้เงินทุนน้อย จึงเป็นธุรกิจออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็นิยมกัน ที่สำคัญจะขายออนไลน์แบบไม่ต้องมีสต๊อกสินค้าก็ยังทำได้ แค่มีพื้นที่โปรโมทสินค้าก็เพียงพอแล้ว โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่นิยมกันก็จะมีเฟสบุ๊ค ไอจี และเว็บไซต์ เมื่อโปรโมทตามช่องทางดังกล่าวแล้วมีลูกค้าสั่งซื้อของและจ่ายเงินเรียบร้อย คุณก็จะได้เงิน

2. ยืดหยุ่น ขายสินค้าได้หลากหลาย

ปัจจุบันยิ่งมีของขายมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีโอกาสสร้างรายได้มากเท่านั้น และการทำดรอปชิปก็มีตัวเลือกให้คุณขายได้อย่างหลากหลาย ลองหาสินค้ายอดนิยมที่กำลังเป็นกระแสมาขาย รับรองว่าจะขายได้ดีแบบไม่น่าเชื่อ และเมื่อมีสินค้าอินเทรนด์ใหม่ ๆ ก็ปรับตัวและหามาขายตามกระแสอีก ทำแบบนี้วนไป ยังไงก็ขายได้เรื่อย ๆ แน่นอน

3. ขายได้จากทุกที่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่

อีกหนึ่งข้อดีของดรอปชิปก็คือ ทำได้จากทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องจำกัดสถานที่อยู่แค่ที่ไหนที่หนึ่ง แค่มีโทรศัพท์มือ โน้ตบุ๊ค หรือแท็บเล็ตพร้อมอินเทอร์เน็ต ก็เชื่อมต่อกับลูกค้าได้ตลอดเวลา ดรอปชิปจึงถือเป็นหนึ่งในงานเสริมที่น่าสนใจเพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ขายได้ตลอดเวลา

4. ทำง่าย เริ่มได้ไม่ยาก

ถ้าหากคุณกังวลว่าจะต้องเครียดเรื่องการจัดการสินค้า สต๊อกของ หรือว่าแพ็คของแล้วล่ะก็ หมดกังวลไปได้เมื่อทำธุรกิจดรอปชิป เพราะคุณแค่โพสต์ขายและโปรโมทสินค้าเท่านั้น ไม่ต้องปวดหัวเรื่องดังกล่าว เนื่องจากทางร้านหรือแบรนด์ที่คุณทำดรอปชิปให้จะทำหน้าที่จัดการสต๊อกสินค้า รวมถึงแพ็คและจัดส่งของให้กับลูกค้า ดรอปชิปจึงเป็นงานที่ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก

‍

ข้อเสียของการทำดรอปชิป

1. คาดเดาสต๊อกสินค้าได้ยาก

เนื่องจากคุณไม่ได้จัดการเรื่องสต๊อกโดยตรง คุณจึงไม่รู้จำนวนสต๊อกสินค้าที่แท้จริง ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ว่าสินค้าที่โปรโมทมีของจริง ๆ หรือไม่ เมื่อลูกค้าคลิกเข้าไปแต่ไม่สามารถซื้อสินค้าได้ก็จะทำให้เสียโอกาสในการขายได้ 

2. อาจมีปัญหาเรื่องการจัดส่ง

เมื่อเลือกขายสินค้าได้หลากหลาย หากเลือกที่จะส่งสินค้าเองก็อาจจะยุ่งยากไม่น้อย แล้วก็มีโอกาสคำนวณค่าจัดส่งผิดพลาดด้วย ดังนั้นควรตั้งราคาสินค้ารวมค่าส่งไว้เลย จะได้ไม่สับสนและป้องกันปัญหาที่ว่านี้ได้

3. ควบคุมคุณภาพสินค้าได้ยาก

ในการทำดรอปชิป ส่วนใหญ่คุณจะทำหน้าที่โพสต์ขายหรือโปรโมทสินค้าเท่านั้น ไม่ได้ติดต่อหรือดีลกับซัพพลายเออร์โดยตรง ทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของสินค้าที่ขายได้ตามต้องการ เวลาลูกค้าติ ก็ต้องน้อมรับเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ต้องเตรียมใจเผื่อตรงนี้ไว้ด้วย

4. กำไรอาจไม่เยอะ

การขายของออนไลน์แบบดรอปชิปมักจะมีการแข่งขันสูง ทำให้ต้องขายราคาต่ำเพื่อเน้นขายในปริมาณเยอะ ๆ และลูกค้าก็มักจะซื้อร้านที่ราคาถูกกว่าด้วย พ่อค้าแม่ค้าหลายคนที่ทำดรอปชิปจึงมักกดราคาเพื่อเรียกลูกค้า ธุรกิจดรอปชิปจึงเป็นธุรกิจที่ได้กำไรน้อยแม้จะดูขายง่าย

ทำดรอปชิปออนไลน์ ขายอะไรดี?

กระแสแรงขนาดนี้ แล้วถ้าทำดรอปชิปออนไลน์ จะขายอะไรดีล่ะ? ไม่ต้องห่วงเพราะในส่วนนี้เราได้รวบรวมสินค้าที่เหมาะกับการขายผ่านดรอปชิปมากที่สุดมาแนะนำดังนี้ :-

• สินค้าเกี่ยวกับกิจกรรมยามว่าง คือ สินค้าสำหรับงานอดิเรก เช่น อุปกรณ์วาดรูป, อุปกรณ์ทำเทียนหอม, อุปกรณ์ทำขนม, อุปกรณ์ตกปลา ฯลฯ
• สินค้าขายต่อ หรือสินค้าเพื่อขายให้กับลูกค้าได้ทำธุรกิจของตัวเองอีกที เน้นขายส่งเป็นทีละมาก ๆ และเน้นขายให้ลูกค้าประจำในระยะยาว
• สินค้าที่ต้องซื้อซ้ำ หรือต้องซื้อบ่อย ๆ เช่น สินค้าเครื่องเขียน ของใช้ประจำตัว และเสื้อผ้า เป็นต้น

‍

ทำดรอปชิปยังไงให้ขายดี?

ถ้าสงสัยว่าอยากทำดรอปชิปแต่ไม่รู้จะทำยังไงให้ขายดีและขายได้เรื่อย ๆ นี่คือเคล็ดลับสำคัญที่คนทำดรอปชิปทุกคนต้องทำตาม

1. คัดคุณภาพก่อนเป็นอันดับแรก

ถ้าอยากได้สินค้าดี ๆ มาขายก็ต้องเน้นที่คุณภาพ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ ถ้าเป็นไปได้ให้ลองซื้อสินค้าที่สนใจมาทดสอบเองจะได้รู้ว่าสินค้าดีพอที่จะขายได้จริงไหม แล้วก็จะได้ให้ข้อมูลลูกค้าได้ดีขึ้นด้วยทั้งสภาพสินค้า ระยะเวลาการจัดส่ง และการแพ็คของ เป็นต้น

2. ราคาสินค้าไม่แพงเกินไป

อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่าดรอปชิปมีการแข่งขันสูงและมักมีราคาถูก คุณจึงควรขายสินค้าไม่แพงเกินไปและขายในราคาที่เป็นไปตามมาตรฐาน เพราะหากขายแพงเกินไปก็จะขายไม่ได้ แต่ถ้าขายถูกเกินไปกำไรก็จะหดหายได้ ดังนั้นขายในราคาที่ไม่แพงเกินไปและได้มาตรฐานไว้ก่อนจะดีกว่า

3. ศึกษาร้านที่ทำดรอปชิป

ลองดูว่าแต่ละร้านมีแนวทางการทำดรอปชิปยังไง เช่น ลักษณะสินค้าที่แต่ละร้านนำมาขาย แนวทางการโปรโมทสินค้า ลักษณะการให้บริการ และวิธีตอบคำถามลูกค้า เป็นต้น ศึกษาให้ครบทั้งร้านดรอปชิปทั่วไปและร้านที่เป็นคู่แข่ง เพื่อสร้างความแตกต่างและจุดขายให้กับธุรกิจดรอปชิปออนไลน์ของคุณเอง

4. โปรโมทบ่อย ๆ เป็นประจำ

โปรโมทสินค้าในเพจ ไอจี และช่องทางอื่น ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าพบเห็นสินค้าเป็นประจำและรู้ว่าร้านมีตัวตนจริง แล้วก็อย่าลืมตอบโพสต์ คอมเมนต์ หรือคำถามของลูกค้าให้ไวด้วย ลูกค้าจะได้มั่นใจในร้านและกล้าซื้อของ

ทำดรอปชิปก็เปิดร้านขายของใน Zaapi ได้ คลิกเลย

สรุป

ที่จริงแล้วดรอปชิป (Dropship) ก็คือธุรกิจขายของออนไลน์แบบไม่ต้องสต๊อกและส่งของเองนั่นแหละ ซึ่งถ้าจะพูดง่าย ๆ ก็คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบบไม่สต๊อกสินค้า หากอยากขายดีก็ต้องดูที่คุณภาพก่อน แล้วก็ตั้งราคาให้ได้มาตรฐาน รู้จักศึกษาร้านอื่น ๆ และโปรโมทสินค้าอย่างสม่ำเสมอ แค่นี้คุณก็จะมีโอกาสขายและขายดีได้ง่ายขึ้น 

‍

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ ทดลองใช้ระบบรวมแชทบน Zaapi ฟรี 7 วัน

‍

{{cta-button="/cms-injection-content"}}

‍

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ Zaapi

หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานฟีเจอร์ สามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทาง

• LINE OA: @zaapi
• Facebook Page: Zaapi Thailand
• Tel: 096-927-1729

‍

Chat, Sell, Scale - The All-in-One Conversation and Commerce Hub